ที่มาของประเพณีนี้มีอยู่ว่า ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯพระองค์ได้เสด็จทางเรือไปประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน ทุกปีซึ่งต้องเสด็จผ่านจังหวัดปทุมธานีในเขตอำเภอสามโคก
ครั้งหนึ่งในเดือนสิบเอ็ด พระองค์ได้เสด็จขึ้นประทับที่บ้านท่าควายซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอบ้านฉาง ตำบลบ้านกลางอำเภอเมือง ฯ บรรดาชาวรามัญในเมืองปทุมธานีเมื่อทราบข่าวต่างพากันพายเรือมาเฝ้าชมพระบารมีและถวายสิ่งของกันอย่างคับคั่งตลอดเวลามิได้ขาด และได้จัดการละเล่นต่าง ๆเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพระเกียรติของพระองค์ กันอย่างมโหฬารดูสนุกสนานครึกครื้นมากครั้นถึงยามค่ำคืนได้จุดประทีปโคมไฟ ลอยเรือถวายอารักขาจุดดอกไม้ไฟสว่างไสวโชติช่วงไปทั่วลำน้ำเจ้าพระยาในบริเวณนั้นช่วงนั้นเป็นปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว และเป็นเวลาข้างขึ้นผู้คนลอยเรือเต็มท้องน้ำยาวเหยียดสุดสายตา และต่างตามประทีปส่องแสงแวววับสวยงามมากประกอบกับในเดือนสิบเอ็ด เป็นฤดูน้ำหลากล้นฝั่ง เพิ่มความสวยงามประทับใจเป็นพิเศษพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ทรงพอพระราชหฤทัย
นับแต่นั้นเป็นต้นมาชาวไทยรามัญจังหวัดปทุมธานีจึงได้พากันลอยเรือเล่นเพลงทะแย จุดประทีปโคมไฟและจุดตะไล ณ สถานที่เดิม เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นประจำทุกปีมิได้ขาด
ดังนั้นพอเริ่มวันขึ้นแปดค่ำ เดือนสิบเอ็ดไปจนถึงวันขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนสิบเอ็ด ตกเวลาบ่ายจะมีบรรดาหนุ่มสาวแต่งตัวสวยงามนั่งเรือลอยลำแม่น้ำเจ้าพระยา จากบ้านกลางปล่อยเรือให้ลอยไป ผู้คนคุยกันเล่นเพลงกันอย่างสนุกสนานไปตามน้ำจนถึงบ้านม่วงเป็นระยะทางประมาณ ๑ กิโลเมตร แล้วก็ช่วยกันพายบางทีก็พ่วงเกาะกันเป็นทิวแถวทวนน้ำขึ้นมาจนถึงบ้านกลางแล้วปล่อยให้เรือลอยไปจนถึงบ้านม่วงอีก เพื่อเล่นเพลงงานดำเนินไปจนถึงกลางคืนประมาณสองยามจึงเลิกแล้วพากันกลับบ้าน
ปัจจุบันการลอยเรือดังกล่าวได้แยกออกไปทำตามหน้าวัดที่อยู่ริมน้ำซึ่งจะกำหนดวันลอยเรือไว้ให้เป็นที่ทราบว่าวันไหน จะลอยเรือที่หน้าวัดใดและมีการเอาพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ตอนเช้าหรือตอนเพลจะมีการทบุญเลี้ยงพระ และมีการปิดทองไหว้พระกันเสียก่อน
วัดที่มีการลอยเรือที่ทำเป็นประจำได้แก่วัดมะขามโดยจะเริ่มในวันแรมหนึ่งค่ำ เดือนสิบเอ็ด วัดหงษ์ปทุมาราม แรมสองค่ำ วัดสำแลแรมสามค่ำ วัดบางหลวง แรมสี่ค่ำ วัดไผ่ล้อม แรมห้าค่ำ วัดไก่เตี้ย แรมหกค่ำวัดบางนา แรมเจ็ดค่ำ วัดดาวเรือง แรมแปดค่ำ
ดังนั้นพอถึงวันเวลาดังกล่าวผู้คนจะพากันทยอยมาร่วมลอยเรือกันเป็นการรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและได้มาพบปะสังสรรค์กัน ในระหว่างเพื่อนฝูง ญาติ พี่น้อง ทั้งได้ร่วมทำบุญตักบาตรปิดทองไหว้พระเป็นการเสริมสร้างสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาต่อไปอีกด้วย