อีเตะเป็นกีฬาและการละเล่นของเด็กไทยในอดีต จะเป็นกีฬาและการละเล่นของเด็กทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่นิยมเล่นกัน ในการเล่นอีเตะจะเล่นได้ทุกโอกาสตามความต้องการของผู้เล่น โดยจะใช้สถานที่เป็นใต้ถุนบ้านลานบ้าน หรือบริเวณที่เหมาะสมเป็นพื้นดินหรือพื้นซีเมนต์ก็ได้
อุปกรณ์ในการเล่น กระเบื้องดินเผา ทำให้เป็นลูกมนกลม จำนวนเท่าผู้เล่น
ผู้เล่น มีจำนวน ๒-๓ คน
สถานที่ในการเล่น ลานดินที่ไม่มีหญ้าหรือต้นไม้ ขนาดกว้าง-ยาว ตามความเหมาะสม เตรียมการเล่นโดยใช้ไม้ขีดเส้นลงบนลานดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้ด้านหนึ่งเป็นหัวกะโหลกแล้วขีดเส้นโค้งเป็นขั้นบันได ความกว้างขั้นละประมาณ 1 ฟุต และเสี่ยงทายหาผู้เล่นคนแรกโดยการโยนกระเบื้องจากด้านตรงข้ามกับหัวกะโหลก ใครโยนกระเบื้องได้ใกล้เส้นมากที่สุดผู้นั้นได้เริ่มเล่นก่อนแล้วเล่นไล่ตามลำดับ ใกล้ - ไกล การโยนกระเบื้อง (ผู้เล่นทุกคนต้องมีกระเบื้องประจำตัว) โดยมีข้อตกลงว่า
1. ผู้แพ้ต้องให้ผู้ชนะ ขี่คอหรือหลังวิ่งรอบสนาม
2. การเช่าบ้านผู้อื่นต้องเสียค่าเช่า เช่น เขกเข่า ดีดหู
วิธีการเล่น โยนกระเบื้องไปที่บันใดขั้นที่ 1 แล้วผู้เล่นเขย่งขาเดียวเตะกระเบื้องให้เลื่อนไปทีละช่อง หรือหลายช่องก็ได้ แล้วแต่ความชำนาญของแต่ละคนต้องเตะให้ถึงหัวกะโหลก ถ้ากระเบื้องที่เตะไปเข้าใกล้เส้นจะใช้เท้าเขย่งตะล่อม ให้ออกห่างเส้นเพื่อเวลาเตะเท้าและกระเบื้องจะได้ไม่ถูกเส้น เพราะถ้าถูกเส้นจะต้องตายแล้วเปลี่ยนผู้เล่นคนต่อไป
ผู้เล่นต้องเขย่งขาไปทีละขั้นตามที่เตะกระเบื้องโดยไม่เหยียบเส้นและกระเบื้องไม่ทับเส้น ก่อนจะถึงหัวกะโหลกให้กระโดดกางขาคร่อมเส้นช่องที่มีกากบาท แล้วกระโดดไปที่หัวกะโหลก ยืนเขย่งขาเดียวเตะกระเบื้องย้อนกลับจุดเริ่มต้น ขากลับกระโดดกางขาคร่อมกากบาทเช่นเดียวกับขาขึ้น ผู้เล่นจะเตะกระเบื้องกลับทีละช่องหรือแตะยาวตลอดสนามก็ได้ เมื่อเขย่งขากลับออกมาที่จุดเริ่มต้นโดยไม่ตายจะได้บ้านหนึ่งหลัง โดยทำเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของไว้
เปลี่ยนผู้เล่นคนต่อไป ผู้เล่นจะโยนกระเบื้องข้ามบ้านที่มีเจ้าของพร้อมทั้งกระโดดข้ามด้วยแล้วเล่นเช่นเดียวกับผู้เล่นคนแรก ขากลับหากมีบ้านอื่นจะต้องเตะให้ข้าม พร้อมทั้งกระโดดข้ามเช่นเดียวกับขาไป และจะได้บ้านหนึ่งหลัง ถ้าผู้เล่นมีบ้านอยู่แล้วต้องเตะให้เข้าของตนเองจึงจะได้บ้านเพิ่ม
เมื่อผู้อื่นได้บ้านติดต่อกัน 2-3 หลัง ผู้เล่นคนต่อไปต้องโยนกระเบื้องเริ่มเล่นให้ข้ามเลยไปพร้อมทั้งตัวเองต้องกระโดดข้ามด้วย ถ้าหากข้ามไม่พันก็ต้องเช่าบ้านเสียค่าเช่าตามที่ตกลงกันแต่ยืนได้เพียงขาเดียว แล้วเล่นเช่นเดียวกันคนอื่น ส่วนผู้ที่มีบ้านสามารถยืนสองขาบนบ้านของตนเองได้
การตัดสินแพ้ – ชนะ ตัดสินตามจำนวนบ้านที่ได้มากที่สุด ผู้แพ้ต้องให้ผู้ชนะขี่คอจากจุดเริ่มต้นด้านล่างของสนาม วนขึ้นไปที่หัวกะโหลกแล้วเดินกลับมาที่เดิมและเริ่มเล่นรอบใหม่