ไม่มีหลักฐานว่าสร้าง พ.ศ.ใดแน่ชัด ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าสมัยที่เป็นเด็กวัดนี้ได้มีอยู่แล้ว ซึ่งเรียกว่า “วัดหัวป่า” รอบวัดเป็นป่า และมีต้นปิ้ง เป็นไม้มีหนามแหลมมาก ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกชื่อวัดนี้อีกว่า วัดดงปิ้ง หรือวัดบางปิ้ง จนถึงปัจจุบัน และได้รับการบูรณะใหม่ในปี พ.ศ. 2535 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2536
ปรับปรุงข้อมูล ครั้งที่ ๑*
วัดบางปิ้ง ตั้งอยู่เลขที่ ๒๗ ถนนเศรษฐกิจ ๑ หมู่ที่ ๒ ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๖ ไร่ ๓ ตารางวา ๔๘ ตารางวา โฉนดที่ดินเลขที่ ๔๔๘๔ อาณาเขตทั้ง ๔ ทิศ จดที่ดินเอกชน มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๒ แปลง เนื้อที่ ๑๗ ไร่ ๓ ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๖.๓๖ เมตร ยาว ๒๐.๕๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๖.๒๐ เมตร ยาว ๔๒.๙๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย สองชั้น หอสวดมนต์ กว้าง ๗.๕๗ เมตร ยาว ๙ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ เป็นอาคารไม้ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๘ หลัง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ๒ หลัง และตึก ๖ หลัง วิหาร กว้าง ๓.๔๐ เมตร ยาว ๕.๕๐ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ ศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๑๐.๒๓ เมตร ยาว ๓๑.๒๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๑ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๑๖.๓๗ เมตร ยาว ๓๓.๕๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖ นอกจากนี้มีอาคารเสนาสนะต่างๆ ดังนี้ คือ ศาลาโรงครัว กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๓๒.๕๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นอาคารไม้ ศาลารักษาอุโบสถศีล ๑ หลัง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กุฏิชี ๑ หลัง หอฉัน ๑ หลัง โรงเรียนพระปริยัติธรรม ๑ หลัง หอกลอง ๑ หลัง หอระฆัง ๑ หลัง และห้องสมุด ๑ ห้อง ปูชนียวัตถุมี พระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๔๓ นิ้ว สูง ๕๗ นิ้ว สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๔ นามผู้สร้างคือ นางสาวพรหมมา ทองคำ
วัดบางปิ้ง ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๔ เดิมชื่อวัดหัวป่า ในสมัยนั้นบริเวณรอบวัดเป็นป่าส่วนมากจะมีต้นปิ้งจำนวนมาก ใช้ทำประโยชน์ได้ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดบางปิ้ง เดิมมีพระอุโบสถหลังแรก ผู้สร้างคือ เถ้าแก่หวานและนางจันทร์ ร่วมกันบริจาคทรัพย์สร้างพระอุโบสถ ต่อมาพระอุโบสถหลังเดิมทรุดโทรมจนใช้การไม่ได้ นายพุ่ม – นายรอด จันจู ได้บริจาคทรัพย์สร้างอุโบสถหลังใหม่ เป็นเงินหนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วน วัดได้รับการบูรณะและพัฒนามาโดยตลอด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๖ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๑๑.๓๕ เมตร ยาว ๒๕.๘๐ เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ รูปที่ ๑ พระมอญ รูปที่ ๒ พระลาว รูปที่ ๓ พระเปลื้อง รูปที่ ๔ พระญาติ รูปที่ ๕ พระเล้ง รูปที่ ๖ พระครูวิชิตสังฆการ พ.ศ. ๒๔๘๓ – ๒๕๑๙ รูปที่ ๗ พระครูอดุลสาครกิจ พ.ศ. ๒๕๑๙ – ปัจจุบัน การศึกษา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓ ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ และศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘