ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 18° 40' 9.2388"
18.6692330
ลองจิจูด (แวง) : E 99° 8' 11.5062"
99.1365295
เลขที่ : 62607
น้ำหนัง
เสนอโดย - วันที่ 2 มกราคม 2553
อนุมัติโดย ลำพูน วันที่ 10 มิถุนายน 2565
จังหวัด : ลำพูน
0 669
รายละเอียด

น้ำหนังหรือที่คนล้านนาเรียกสั้น ๆ ว่า "น้ำหนัง" เป็นอาหารที่นิยมทำเพื่อบริโภคเป็นของกินควบคู่กับข้าวเหนียว แกงพื้นเมือง น้ำพริก ผัก และยำต่าง ๆ เหตุที่ชาวบ้านเรียกว่า น้ำหนัง เพราะเป็นอาหารเลิศรส และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน

น้ำหนังเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดของชุมชนห้วยไซ แต่ปัญหาในปัจจุบันก็คือ ไม่มีวัตถุดิบในการผลิต เพราะควายน้อยลงคนนิยมหันไปใช้เครื่องจักรแทน แต่ยังมีป้าบัวยอนที่ได้เรียนรู้วิธีการทำน้ำหนังโดยดูจากการทำของป้าจันทร์ทา ปาลี ซึ่งอาศัยอยู่ข้างบ้านที่เริ่มทำมาก่อนและนำมาหัดทำเอง ตอนแรกป้าบัวยอนได้ลองทำกินเองก่อน สมัยนั้นใช้ทำกับใบตองแทนการใช้พลาสติก แต่ปัจจุบัน มีเพียงป้าบัวยอนเท่านั้นที่ยังคงทำน้ำหนังและสืบทอดต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น

วิธีทำ

1. นำหนังควายมาล้างให้สะอาด แล้วนำลงลวกในหม้อน้ำตั้งไฟพออุ่น ขูดเอาขนที่ติดหนังออกให้สะอาด
2. นำหนังควายลงต้มในน้ำเดือด ทิ้งไว้ประมาณ 8 ชั่วโมง
3. เมื่อต้มได้ที่จนหนังเปื่อยเละแล้ว ให้ตักขึ้น พักไว้
4. นำหนังควายที่ต้มแล้วมาถูกับกระชอน โดยใช้ไม้กดเพื่อจะได้น้ำจากหนังควาย ใส่ภาชนะพักไว้
5. ละเลงน้ำหนังที่ได้ไปราดบนใบตองเป็นวงกลม
6. นำมาผึ่งลมประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนำไปแขวนตากประมาณ 2 ชั่วโมง
7. แกะแผ่นน้ำหนังออกจากใบตอง นำไปตากแดดให้แห้ง หลังจากนั้นนำเกลือและน้ำมันทาที่แผ่นน้ำหนังเพื่อเพิ่มรสชาติ
8. นำน้ำหนังมาย่างไฟให้เหลืองกรอบ พร้อมรับประทาน

สถานที่ตั้ง
บ้านห้วยไซกลาง
เลขที่ 174 หมู่ที่/หมู่บ้าน 15 บ้านห้วยไซกลาง
ตำบล ห้วยยาบ อำเภอ บ้านธิ จังหวัด ลำพูน
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
บุคคลอ้างอิง นายประมวล อินตายวง
เลขที่ 174 หมู่ที่/หมู่บ้าน 15 บ้านห้วยไซกลาง
อำเภอ บ้านธิ จังหวัด ลำพูน รหัสไปรษณีย์ 51180
โทรศัพท์ 053984387
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่