ลวดลายผ้าของชาวปกาเกอะญอสามารถบ่งบอกถึงความสามารถ ความละเอียด ทักษะด้านการฝึกฝน จากโครงสร้างของลวดลายของผ้า และความสามารถในการประยุกต์ใช้ลวดลายจากการทอ การปักและการเย็บ รวมถึงการคัดขนาดของลูกเดือยเพื่อนำมาปัก เพราะต้องการให้ลูกเดือยทุกเม็ดมีขนาดเท่ากัน เป็นการฝึกความอดทน ฝึกทักษะความชำนาญเพราะหากทำผิดต้องแก้ไขหรือรื้อออกแล้วทำใหม่จนกว่าจะพอใจ และทำให้ผู้หญิงชาวปกาเกอะญอมีประสบการณ์และทักษะความสามารถในการทอผ้าและการปักผ้า ซึ่งลวดลายของผ้ามีความหลากหลายขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ทอ ในการประยุกต์ลวดลายที่นิยมคือ ลายดั้งเดิมทั้งหมดโดยลายผ้าของชาวปกาเกอะญอของบ้านดอยและบ้านหนองด่าน มี 2 ลายหลัก ที่เป็นลายดั้งเดิม คือ ลายมัดหมี่คูฉกคัง และลายมัดหมี่หนิ่งเมกลัง ส่วนลวดลายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจะเป็นลายสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีการสื่อสารศิลปะนอกชุมชน การสร้างสรรค์ผลงานจะมีมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเส้นใย การเปลี่ยนแปลงสีสันรวมถึงการเลียนแบบผ้าจากกลุ่มชาติพันธุ์อื่นหรือพื้นที่อื่นมาผสมผสานให้มีลวดลายที่สวยงามมีสีสันมากขึ้นปรากฏการเปลี่ยนแปลงของลวดลายบนผืนผ้าสามารถสรุปได้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงจาก 3 เรื่อง คือ 1) เรื่องของวิถีชีวิต 2) เรื่องของวัสดุอุปกรณ์ในการทอผ้า และ 3) เรื่องของการผสมผสานลวดลายบนผืนผ้าระหว่างความรู้ดั้งเดิมและความรู้ใหม่จากกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ลวดลายผ้าของชาวปกาเกอะญอ พื้นที่ตำบลโชคชัย อำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงราย พบลวดลายต่าง ๆ ดังนี้
1.ลวดลายผ้าทอเป็นการประดิษฐ์ลวดลายในเนื้อผ้า หรือผืนผ้าขณะทอ เทคนิคการทอ มีดังนี้
1.1ลายในเนื้อผ้าเป็นเส้นนูนตามแนวตั้งหรือแนวนอน เกิดจากการเพิ่มจำนวนเส้นด้ายยืนหรือเส้นด้ายพุ่งเพิ่มขึ้นจากปกติ
1.2ลายสลับสีเป็นการทอแบบธรรมดาหรือการทอลายขัด แต่มีการแทรกด้วยสีต่าง ๆ เข้าไป ในขณะเรียงเส้นยืน หรือเมื่อสอดเส้นด้ายพุ่งแล้วมีการสลับสีเป็นริ้วและสานขัดกัน โครงสร้างผ้าสลับสี
1.3ลายปั่นไกเป็นลายที่เกิดจากการนำเส้นด้ายสองสีขึ้นไปมาปั่นเกลียวสลับสี แล้วพุ่งขัดกับเส้นด้ายยืน เพื่อให้เกิดสีสัน มีความเหลื่อมของสี ส่วนมากจะใช้เน้นเฉพาะจุด เช่น ลายหัวถุงย่าม ลายแถบตรงอกเสื้อ ชายเสื้อ ไม่นิยมทอปั่นไกทั้งผืน
1.4ลายมัดหมี่เป็นเทคนิคการทำมัดหมี่เส้นด้ายยืนก่อน แล้วนำมาทอเพื่อให้ลวดลายที่มัดหมี่
มาปรากฏบนผืนผ้า ใช้ทอเป็นผ้าซิ่นของแม่บ้าน
1.5ลายขิดเป็นการทอให้ลวดลายปรากฏเหมือนกันทั้งผืน เป็นแบบยกดอกในตัวโดยใช้วิธีแยกเส้นด้ายยืน นับเป็นช่องตามลายที่ออกแบบไว้ แล้วสอดไม้เข้าไปเป็นตัวนับในการสอดเส้นด้ายพุ่งหรือจะใช้การแยกเส้นด้ายยืนด้วยตะกอหลาย ๆ ชุดตามจังหวะของลวดลาย
1.6ลายจกเป็นการทอลวดลายโดยการสอดเสริมเส้นด้ายพุ่งพิเศษ เข้าไปในผืนผ้าตามตำแหน่งที่ต้องการ โดยผู้ทอจะใช้นิ้วมือหรือขนเม่น เป็นเครื่องช่วยยกเส้นด้ายยืน และสอดเส้นด้ายสีพิเศษเข้าไป โดยปกติการทอจกของชาวปกาเกอะญอจะทอจากด้านหลังของผืนผ้า ผู้ที่ทอผ้าชนิดนี้ต้องมีความชำนาญในการกำหนด หรือการนับเส้นด้าย เพื่อให้ได้ลวดลายสีสันที่ถูกต้องตามการออกแบบไว้
2.ลวดลายผ้าปักด้วยลูกเดือยการปักผ้าด้วยลูกเดือยของชาวปกาเกอะญอ พื้นที่ ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย เริ่มหายไปจนแทบจะไม่เห็นวิถีการปักผ้า แต่ยังพบเห็นได้จากเสื้อจากมรดกของบรรพบุรุษ ส่วนใหญ่การปักผ้าด้วยลูกเดือยยังพบเห็นอยู่บ้างในพื้นที่ตำบลหนองป่าก่อ และพื้นที่อื่นที่อยู่ใกล้เคียง
3.ลวดลายผ้าปะการนำผ้าเย็บปะติดบนผืนผ้าทอ เป็นเทคนิคที่ชาวปกาเกอะญอ นำมาทำเพื่อตกแต่งให้เสื้อผ้ามีความสวยงาม และเป็นเทคนิคการผสมผสานให้เสื้อมีความน่าสนใจมากขึ้น
4.ลวดลายการเย็บด้วยมือการเย็บผ้าด้วยมือหรือการเย็บเพลาะต่อผ้า เป็นทักษะหนึ่ง
ที่สตรีชาวปกาเกอะญอจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญไม่แพ้การสร้างลวดลายต่าง ๆ บนผืนผ้า เนื่องจากผ้าทอด้วยกี่เอวจะเป็นผ้าที่ไม่กว้างมากจึงจำเป็นต้องนำมาเย็บต่อกันให้เกิดขนาดผ้าที่ต้องการ รวมถึงการเย็บผ้าเพื่อสร้างรูปแบบเสื้อผ้าและเครื่องใช้ต่างๆ ตามความประสงค์ของผู้ทำขึ้น ส่วนรูปแบบการเย็บ หรือลวดลายการเย็บ ก็ขึ้นอยู่กับความถนัด ความชอบ ความงาม ความหนาแน่น หรือความต้องการของผู้ที่สวมใส่
อัตลักษณ์ด้านสิ่งทอของชาวปกาเกอะญอในพื้นที่ตำบลโชคชัยอำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงราย คือ การรักษาและสืบทอดเรื่องของความเชื่อ ผ่านกระบวนการสอน อบรมเลี้ยงดูจากผู้เป็นมารดา รวมถึงความเคารพบรรพบุรุษ ด้วยพิธีการเลี้ยงผีบ้าน ความเคารพครอบครัวของภรรยาผ่านผ้าสินสอดเป็นการสอดแทรกให้ลูกหลานรู้จักให้ความเคารพและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ส่งผ่านเรื่องราวลวดลายและรูปแบบของการแต่งกายตามสายตระกูลของฝั่งมารดา หรือแม้แต่การดำรงชีวิตที่พึ่งพิงกับพิธีกรรมการนับถือผี ซึ่งถูกสรรค์สร้างปั้นแต่งขึ้นมาให้แตกต่างกันตามแต่ยุคสมัย และตามแต่พื้นที่ก็มีการสอดแทรกในเรื่องของความเชื่อ ใช้เป็นแนวทางในการดำรงชีวิตให้ลูกหลานชาวปกาเกอะญอ มีความภาคภูมิใจในชาติพันธุ์ตนเอง