วัดธรรมมิการาม (หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดสบเกี๋ยง) บ้านสบเกี๋ยง ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์เมืองขุนควรขึ้น ภายในกุฏิไม้ทรงไทย เพื่อเก็บรวบรวมผ้ายันต์ชนิดต่าง ๆ ของทางล้านนาภาคเหนือ ไว้เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ทราบถึงวัฒนธรรมของบรรพบุรุษได้สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดธรรมมิการาม (วัดสบเกี๋ยง) อ.ปง จ.พะเยา ประธานเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคเหนือ เปิดเผยว่าได้เล็งเห็นอันตรายที่จะเกิดการสูญหายของผ้ายันต์ ซึ่งเป็นมรดกของชาติของชาวล้านนาโดยเฉพาะของทางภาคเหนือ จึงได้พยายามรวบรวมผ้ายันต์ จากแหล่งต่าง ๆ ทั้งในจังหวัดพะเยา และภาคเหนือทั้งหมด มาเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เมืองขุนควร ภายในวัดธรรมิการาม เพื่อเด็กเยาวชนรุ่นหลัง ๆ ได้เรียนรู้ศึกษาประวัติความเป็นมาของผ้ายันต์ ซึ่งเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรม
ผ้ายันต์ที่เก็บรักษาไว้มีกว่า 200 ผืน โดยมีอายุต่ำสุดประมาณ 50-70 ปี และมากสุดประมาณ 100 ปี ขึ้นไป ประเภทของผ้ายันต์นั้นจะมีทั้งแบบผืนผ้าสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เล็ก เสื้อ กางเกง สำหรับผ้ายันต์มีหลายชนิดอาทิ ยันต์เมตตามหานิยม ยันต์มหาอำนาจ ยันต์ค้าขาย ยันต์มหาเสน่ห์ ยันต์โชคชะตา ยันต์อยู่ยงคงกระพัน ยันต์ป้องกันภัย ยันต์สารพัดนึก ยันต์ฝ่าต๊ะ (รูปมือหรือเท้าที่เอาทาบลงบนผ้า) ผ้ายันต์ที่พบส่วนใหญ่ทำจากผ้าดิบ ลวดลายอักษรภาษาคำเมืองหรือล้านนา เขียนด้วยหมึกสักและสีของพืชตามธรรมชาติ เช่น สีดำ แดง และเขียว ผ้าแต่ละผืนอยู่ในสภาพขาดวิ่นด้วยความเก่าแก่นอกจากนี้ภายในยังเก็บรวบรวมพระพุทธรูปเก่าแก่ ยันต์ตระกุดต่าง ๆ พระพุทธรูปงาช้าง คัมภีร์ตำราล้านนาต่าง ๆ ที่ตัวอักษรเป็นตัวเมืองล้านนา