หวายเป็นไม้ที่ ลำต้นและกาบใบมีหนาม รากเป็นระบบรากแขนง ดอกช่อประกอบด้วยกลุ่มแขนงช่อดอก ดอกไม่สมบูรณ์เพศ จะสร้างช่อดอกออกจากลำต้นส่วนที่มีกาบหุ้ม เปลือกผลมีลักษณะเป็นเกล็ดซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ ผลค่อนข้างกลม ผลอ่อนสีเขียวเมื่อแก่ จะเปลี่ยนเป็นสีขาว
ส่วนผสม
1. หวาย 300 กรัม
2. เกลือ 1 ช้อนชา
3. น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
5. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
7. เนื้อสัตว์ 200 กรัม
8. ข่า 10 ต้น
9. เห็ด 100 กรัม
10. ข้าวเบือ 1 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำใบย่านาง(คั้นสด) 800 มิลลิลิตร
12. แมงลัก 5 ก้าน
13. พริกขี้หนู 7 เม็ด
วิธีทำขั้นเตรียมวัตถุดิบ
1. ทำการเตรียมหวายโดยเลือกแต่ส่วนที่อ่อนตัดเป็นชิ้นให้พอดีคำ และข่าตัดเป็นชิ้นยาว ๆ
2. เตรียมนำข้าวเบือ (ข้าวสารที่เป็นข้าวเหนียวแช่น้ำจนเมล็ดข้าวอ่อนตัว) โดยการเอาข้าวเบือมาตำให้ละเอียดและเติมน้ำย่านางลงไปครึ่งหนึ่งของทั้งหมด (400 มิลลิลิตร) ก็จะได้น้ำข้าวเบือพร้อมใส่แกงหวาย
ขั้นตอนการทำ
1. โขลกพริกกับเกลือให้เข้ากัน เอาน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟกลาง จากนั้นนำพริกที่โขลกไว้ลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำปลาร้าและเนื้อหมู ทำการคน ๆ ให้เข้ากัน ปล่อยทิ้งไว้ให้หมูสุกและน้ำแห้งลงเล็กน้อย ระหว่างนี้ก็คนเรื่อย ๆ
2. พอหมู/ไก่สุก ทำการใส่หวายลงไปเพิ่มไฟให้แรงขึ้นได้ คน ๆ ส่วนผสมให้เข้ากัน ระหว่างนี้หากหม้อแห้งไปสามารถค่อย ๆ เติมน้ำใบย่านางลงได้ (ค่อย ๆ เติมจนหมด) ต้มต่อไปจนกว่าหวายจะอ่อนตัวลง
3. พอหวายอ่อนตัวลงแล้วใส่ข่าและเห็ดลงไปค่ะ ทำการคน ๆ และต้มทิ้งไว้ประมาณ 4-5 นาที เมื่อส่วนผสมทุกอย่างสุกค่อย ๆ เติมน้ำข้าวเบือที่เตรียมไว้ลงไปค่ะ หลังจากเทลงหม้อเสร็จให้คน ๆ ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 3 นาทีค่ะเพื่อให้ข้าวเบือสุก
4. เมื่อข้าวเบือสุกทำการปรุงรสด้วย น้ำปลา, ซีอิ๊วขาว คน ๆ ให้เข้ากันและชิมลองดู หากยังไม่อร่อยปรุงอีกได้ตามชอบ แต่หากอร่อยแล้วสามารถใส่แมงลักลงไป คน ๆ แมงลักจนกว่าจะมีกลิ่นหอม พอหอมแล้วปิดเตาพร้อมรับประทานได้เลย
สรรพคุณของหน่อหวาย
หน่อหวายมีธาตุสังกะสีในปริมาณมาก และยังมีสรรพคุณดับพิษร้อน ดับพิษไข้ แก้ไอ บำรุงน้ำดี แก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ ช่วยให้เจริญอาหาร ลดความเครียด และยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชายได้ด้วย