เป็นประเพณีที่ชาวไทยรามัญเมืองปทุมธานี ปฏิบัติสืบต่อกันมานาน ตั้งแต่ครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นที่ทราบกันดีว่า จังหวัดปทุมธานี มีมอญหรือที่เรียกว่า ชาวไทยรามัญอยู่จำนวนมาก คำว่า คั่ง ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓ แปลว่า แออัด แน่นมากมาย ฉะนั้น ในที่นี้จึงหมายถึงมีมอญเป็นจำนวนมากสาเหตุที่เกิดประเพณีมอญคั่ง ก็เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จโดยทางเรือไปประทับ ณ พระราชวังบางปะอินทุกปี ไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ทางทิศเหนือ ซึ่งต้องเสด็จผ่านจังหวัดปทุมธานี อำเภอสามโคกครั้งหนึ่ง ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงมีพระมหากรุณาเสด็จขึ้นประทับที่บ้านท่าควาย ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ในเขตบ้านฉาง ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี บรรดาชาวรามัญ จังหวัดปทุมธานี เมื่อทราบข่าวต่างพากันพายเรือมาเฝ้าชมพระบารมีและถวายสิ่งของกันอย่างคับคั่งตลอดเวลามิได้ขาด และได้จัดการละเล่นต่างๆ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพระเกียรติของพระองค์กันอย่างมโหฬาร ดูสนุกสนานครึกครื้นที่สุด ครั้นถึงยามค่ำคืน ได้จุดประทีปโคมไฟ ลอยเรือถวายอารักขา จุดดอกไม้ไฟสว่างไสวโชติช่วงไปทั่วลำน้ำเจ้าพระยา ช่วงนั้นเป็นปลายฤดูฝนเริ่มต้นฤดูหนาว และเป็นยามข้างขึ้นเดือนหงาย ผู้คนลอยเรือเต็มท้องน้ำยาวเหยียดสุดสายตา และต่างตามประทีปส่องแสงแวววับสวยงามมาก ประกอบกับเป็นเดือน ๑๑ ฤดูน้ำหลากน้ำล้นฝั่งชุ่มฉ่ำ เพิ่มความสวยงามประทับใจเป็นพิเศษ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพอพระราชหฤทัย ที่ชาวรามัญ มีความจงรักภักดีต่อพระองค์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวไทยรามัญจังหวัดปทุมธานี จึงได้พากันลอยเรือเล่นเพลงทะแย จุดประทีปโคมไฟ จุดดอกไม้ไฟ และจุดตะไล ณ สถานที่เดิม เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าล้นกระหม่อม พระพุทธเจ้าหลวงเป็นประจำทุกปีมิได้ขาดจะเห็นได้ว่าพอเริ่มขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ไปจนถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑ ตกเวลาบ่ายจะมีบรรดาหนุ่มสาวแต่งตัวสวยงาม นั่งเรือลอยลำตามลำแม่น้ำเจ้าพระยาจากบ้านกลาง ปล่อยให้เรือลอยไป ผู้คนคุยกันเล่นเพลงกันอย่างสนุกสนานไปตามน้ำ จนถึงบ้านม่วงเป็นระยะทาง ๑ กิโลเมตร แล้วก็ช่วยกันพาย บางทีก็พ่วงเกาะกันเป็นทิวแถวทวนน้ำขึ้นมาจนถึงบ้านกลาง และปล่อยเรือให้ลอยไปจนถึงบ้านม่วงอีกเพื่อเล่นเพลง ทำอย่างนั้นจนถึงกลางคืนราว ๒ ยาม (๒๔ นาฬิกา) จึงจะเลิกแล้วพากันกลับบ้านเวลานี้ การลอยเรือหรือประเพณีมอญคั่งนี้ได้แยกออกไปทำตามหน้าวัดที่อยู่ริมน้ำซึ่งจะกำหนดวันลอยเรือไว้เป็นที่ทราบกันว่าวันไหนจะลอยเรือที่หน้าวัดใดเอาการศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นตอนเข้าหรือตอนเพลจะมีการทำบุญเลี้ยงพระและมีการปิดทองไหว้พระกันเสียก่อนวัดที่มีการลอยเรือ (มอญคั่ง) ที่ทำเป็นประจำได้แก่วัดมะขาม จะเริ่มวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ วัดหงษ์ปทุมาวาส แรม ๒ ค่ำ วัดสำแล แรม ๓ ค่ำ วัดบางหลวง แรม ๔ ค่ำ วัดไผ่ล้อม แรม ๕ ค่ำ วัดไก่เตี้ย แรม ๖ ค่ำ วัดบางนา แรม ๗ ค่ำ วัดดาวเรือง แรม ๘ ค่ำฉะนั้น พอถึงวันเวลาดังกล่าวข้างต้น ผู้คนไม่ว่าหนุ่มสาวเฒ่าแก่และเด็กเล็ก จะพากันทยอยมาร่วมลอยเรือกัน เป็นการรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ และได้มาพบปะสังสรรค์กันในระหว่างเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง ทั้งได้ร่วมทำบุญตักบาตรปิดทองไหว้พระเป็นการเสริมสร้างสืบต่ออายุพุทธศาสนาให้ถาวรต่อไปอีกด้วย