เยี่ยมชมวัด(ร้าง)โพธิ์ทะเลเหนือ สันนิษฐานอายุราว 400 ปี
.....................................
วัดโพธิ์ทะเลเหนือ ต.โพธิ์ทะเล อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เป็นวัดร้างอีกแห่งหนึ่ง ที่ถูกระบุว่าอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการยื่นขอยกฐานะเพื่อเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษา วันนี้เลยถือโอกาสแวะไปเยี่ยมชมเพื่อนำมาเล่าสู่กันฟัง
ต้องบอกว่าวัดโพธิ์ทะเลเหนือ มีทำเลที่ตั้งห่างไกลชุมชนมากพอควร มีเนื้อที่ทั้งหมด 13 ไร่ เศษ แต่บางส่วนมีชาวบ้านได้ขอเช่าจากสำนักงานพระพุทธศาสนาเพื่อใช้ทำการเกษตร วัดอยู่ติดกับบึงแฟบ มีหลวงตาจ่า หรือ พระวิชัย ธัมมาละโย เป็นเจ้าอาวาส ปัจจุบันขึ้นทะเบียนเป็นวัดร้างเรียบร้อยแล้ว
หลวงตาจ่า เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2558 ชาวบ้านนำโดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.โพธิ์ทะเล ได้ประชุมชาวบ้านและเห็นพ้องต้องกันว่าจะบูรณะวัดโพธิ์ทะเลเหนือ ซึ่งขณะนั้นมีสภาพเป็นวัดร้าง มีเพียงซากวิหารเก่า ชำรุดและถูกขุดทำลายไปจนแทบจะไม่เหลือความเป็นอาคาร..ให้กลับมาเป็นวัดที่ความพร้อมในการประกอบศาสนกิจ และร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
การสืบค้นข้อมูลและประวัติความเป็นมาของวัดโพธิ์ทะเลเหนือ หาได้ค่อนข้างยาก จะมีก็เพียงการอ้างอิงจากเอกสารการบันทึกประวัติจากวัดคีมราษฎร์ศรัทธาธรรม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า วัดคีม ซึ่งบันทึกโดย กศน.สิงห์บุรี
ระบุเอาไว้ตอนหนึ่งว่า เมื่อปี 2477 ทางวัดได้ร่วมกับชาวบ้านไปอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 2 องค์ จากวัดร้างโพธิ์ทะเลเหนือ ชื่อว่า หลวงพ่อยิ้มและหลวงพ่อแย้ม
ซึ่งว่ากันว่าวิธีการอัญเชิญสมัยนั้นไม่ง่าย ต้องใช้เกวียนเทียมโค กว่าจะมาถึงวัดคีมได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ระยะทางจะห่างกันไม่มากนักก็ตาม โดยมีเรื่องเล่าปาฏิหาริย์ในระหว่างการอัญเชิญมากมาย
ทีนี้ มาตอบข้อสงสัยที่ว่า แล้วเราทราบได้อย่างไรว่า วัดร้างโพธิ์ทะเลเหนือ มีอายุประมาณ 400 ปี ข้อมูลตรงนี้อ้างอิงการวิเคราะห์อายุของหลวงพ่อยิ้มและหลวงพ่อแย้มว่าสร้างมาในสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ของชาวบ้านบางระจัน ที่ทำการศึกกับพม่าโดยมีข้อมูลว่า หนึ่งในวีรชนที่มาร่วมปกป้องแผ่นดิน มาพักทำมาหากินอยู่ที่บ้านโพธิ์ทะเลเหนือ ก่อนจะร่วมรบกับชาวบางระจัน
และเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ผลของสงครามชาวบางระจันรวมไปถึงกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานข้าศึกได้ ส่งผลให้บ้านเมืองระส่ำระสาย เป็นเหตุให้ชาวบ้านรวมไปถึงพระภิกษุสงฆ์ตามวัดวาอารามต่างๆ ต้องละทิ้งถิ่นฐาน เพื่อหลบภัยสงคราม ซึ่งน่าจะรวมถึงวัดโพธิ์ทะเลเหนือแห่งนี้ด้วย ทำให้กลายเป็นวัดร้างแต่นั้นมา
ปัจจุบันวัดโพธิ์ทะเลเหนือ ได้รับการบูรณะให้กลับมามีสภาพที่สามารถประกอบศาสนกิจได้เช่นเดียวกับวัดทั่วไป โดยมีการสร้างหลังคาคลุมวิหารเก่าเอาไว้ พร้อมกับสร้างองค์พระประธาน และหล่อหลวงพ่อยิ้ม-หลวงพ่อแย้ม องค์จำลองขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการะบูชา
ถามว่า เมื่อไรจะได้ยกฐานะเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับวัดทั่วไป หลวงตาจ่าตอบแบบไม่ลังเลว่า ชักจะเริ่มถอดใจเพราะมีอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะขั้นตอนตามระเบียบราชการ ซึ่งขณะนี้รอให้ผู้เชี่ยวชาญทางเด้านเอกสาร มาช่วยดำเนินการให้ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จลุล่วงไปได้เมื่อใด
ถ้าจะว่ากันไปแล้ว วัดโพธิ์ทะเลเหนือ ถือเป็นวัดร้างอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาไปมากพอสมควร หากสามารถยกฐานะขึ้นเป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษาน่าจะเกิดประโยชน์ต่อการควบคุม กำกับดูแล และพัฒนาให้เป็นอีกหนึ่งวัดที่น่าศึกษาค้นคว้าเชิงประวัติมากอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสิงห์บุรี