พระจุฑาธุชราชฐาน ตั้งอยู่ ณ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี อดีตเคยเป็นราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเหตุการณ์วิกฤต ร.ศ.๑๑๒ ก็สิ้นสุดการเป็นเขตพระราชฐานและมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ มาขอพื้นที่ ปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอใช้พื้นที่บางส่วนเพื่อเป็นสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและศูนย์ฝึกนิสิต และทำหน้าที่ดูแลรักษาพระจุฑาธุชราชฐานไปในคราวเดียวกัน
เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๕ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เริ่มทำการปรับปรุงพระราชฐานขึ้นใหม่ เพื่อจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๗ โดยในส่วนที่ได้ปรับปรุงและจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ และโบราณสถาน ได้แก่
พระเจดีย์ออุโบสถ วัดอาษฎางคนิมิต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๕ ปัจจุบันได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และเปิดให้ชมเรือนไม้ริมทะเล สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๕ ปัจจุบันได้รับการบูรณะ และใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจในเกาะสีชังเรือนวัฒนา สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๕ โดยพระราชทานนามตามพระนามสมเด็จพระนางเจ้า สว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเหตุการณ์สำคัญใน เกาะสีชัง สมัยรัชกาลที่ ๕เรือนผ่องศรี สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๕ โดยพระราชทานนามตามพระนามของพระนางเจ้าเสาวภา ผ่องศรี พระวรราชเทวี ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และประวัติบุคคลผู้มีบทบาทกับเกาะสีชังในอดีตเรือนอภิรมย์ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๕ โดยพระราชทานนามตาม พระนามของพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ปัจจุบัน ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการสิ่งปลูกสร้าง ในสมัยรัชกาลที่ ๕