“กระยาสารทอาภรณ์”ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ถือได้ว่าเป็นเจ้าแรกของจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ทำการค้าขายมานานในอดีตการทำกระยาสารทเป็นการทำแบบรวมกลุ่มรวมวัตถุดิบและกวนกระยาสารทกันที่บ้านโดยมีรองศาสตราจารย์วิมลศรี ชำนาญเวช อดีตรัฐมนตรีทบวงมหาวิทยาลัย และคุณยายจิตรเกษม เหล่าสินชัย เป็นคนสำคัญในการทำกระยาสารท เพราะมีฝีมือในการทำอาหารทั้งคาวและหวาน โดยที่บ้านของนายสมภพ วงศ์พยัคฆ์ กำนันตำบลบางกรูดและเป็นคนเชื้อสายมอญ บ้านตั้งอยู่ริมน้ำ มีเรือบรรทุกน้ำอ้อยมาขาย และได้เคี่ยวน้ำอ้อยใส่โอ่ง ซึ่งการทำน้ำตาลอ้อยเป็นภูมิปัญญาของชาวมอญ ทั้งนี้คุณยายจิตรเกษม เหล่าสินชัย เป็นน้องสาวของคุณยายเฮียง (อารีพันธุ์ น้อยใจบุญ) ซึ่งเป็นคุณยายของ กำนันสมภพ วงศ์พยัคฆ์ และเป็นต้นตำรับตำนานกระยาสารทน้ำอ้อยและตำนานถั่วลิสงซอย
ในสมัยก่อนมีการทำไร่ ทำนา ทำสวน กันมาก ซึ่งผลผลิตจากการทำไร่ ทำนา ทำสวน ก็มีเป็นจำนวนมากด้วยจึงเกิดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการนำผลิตผลดังกล่าวมาแปรรูปทำเป็นอาหารและขนม “กระยาสารท” เป็นชื่อขนมที่คนไทยรู้จักและทำสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ เพราะเป็นขนมที่เกี่ยวข้องกับประเพณีของไทย คือ ใช้ในการทำบุญสารทไทย ซึ่งตรงกับวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ของทุกปี โดยคนที่นับถือศาสนาพุทธ จะต้องนำขนมกระยาสารทไปทำบุญใส่บาตรที่วัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วตามประเพณีสารทไทย ที่ได้ทำสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ชาวตำบลบางกรูด ในสมัยก่อนจะกวนกระยาสารท ในเทศกาลสารทไทยเดือนสิบ การกวนกระยาสารทนอกจากกวนไว้เพื่อทำบุญสารทเดือนสิบแล้ว ก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับญาติพี่น้องที่ไปอยู่ถิ่นอื่น และแลกเปลี่ยนแบ่งปันกันในชุมชน นับเป็นวัฒนธรรมอันดีงามที่สืบสานกันมา ซึ่งกระยาสารทที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย คือ “กระยาสารทอาภรณ์” หรือ “กระยาสารทกำนันมด” ที่ได้สืบทอดภูมิปัญญาด้านการทำอาหารมาจากบรรพบุรุษชาวบางกรูด โดยเริ่มต้นคุณแม่อาภรณ์ กวนกระยาสารทขายมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๐ และด้วยเกรงว่าสูตรการทำกระยาสารทแบบดั้งเดิมจะสูญหายไปตามกาลเวลา “ผู้ใหญ่มด” (ตำแหน่งในอดีต) จึงคิดว่าตนจะสืบสานภูมิปัญญานี้ไว้เอง ซึ่งจะทำกระยาสารท จำหน่ายในช่วงเทศกาลสารทไทย เพียง ๒ เดือน คือ เดือนเก้าและเดือนสิบ และชื่อเสียงเรื่องความอร่อย หวาน หอม เหนียวนุ่มกำลังดี ไม่มีกระด้าง ชื่อเสียงของกระยาสารทอาภรณ์ นั้นไม่ใช่อยู่ในเฉพาะตำบลบางกรูดเท่านั้น ยังเป็นที่รู้จักของชาวฉะเชิงเทรา มีการนำมาขายตามร้านค้าต่าง ๆ ในตัวจังหวัด ในช่วงเทศกาลสารทไทย โดยเพื่อนของคุณพ่อ คุณแม่ที่ค้าขายในตลาดที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แนะนำให้ทำกระยาสารทไปจำหน่ายเนื่องจากเห็นว่าฝีมือดี ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ คุณแม่อาภรณ์ วงศ์พยัคฆ์ ได้นำกระยาสารทไปฝากขายที่ร้านสมสมัยและร้านธโนดมตามคำแนะนำ โดยได้ตั้งชื่อกระยาสารทตามผู้เป็นเจ้าของ คือ “กระยาสารทอาภรณ์”ต่อมาก่อนที่คุณแม่อาภรณ์ วงศ์พยัคฆ์ จะเสียชีวิตลง ได้ทำการถ่ายทอดการทำกระยาสารทให้กับนายสมภพ วงศ์พยัคฆ์ หรือกำนันมด ไว้เพื่อสืบทอดการทำกระยาสารทต่อไป
กำนันมดได้รับมรดกความพิถีพิถันละเอียดลออในการคัดสรรวัตถุดิบมาจากคุณแม่ แม้เมื่อทำเพื่อขาย ก็ยังคงรักษามาตรฐานเหมือนทำกินเอง กำนันมดคงมาตรฐานทุกส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ซื้องาดำมาขัดเอง ให้เป็นงาขาว โดยนำงาที่แช่น้ำไว้มาตำในครกไม้ใหญ่ และใช้ สะโพกจาก ตำงาเพื่อกะเทาะเปลือกให้ออก นับเป็นภูมิปัญญาที่กำนันสมภพรักษาคุณภาพของงา และนำวัสดุที่เตรียมไว้มาอบควันเทียนให้หอมก่อนนำไปกวน ซึ่งจะทำให้กระยาสารทมีคุณภาพแตกต่างจากที่อื่นนั่นเอง
กระยาสารทอาภรณ์ มีวัตถุดิบส่วนผสม ดังนี้
ส่วนผสมของกระยาสารท
- ถั่วลิสง นำมาคั่วและซอยให้ละเอียด
- งาดำ
- ข้าวเม่า
- ถั่วเขียวบด
- น้ำตาลอ้อย (ในอดีตใช้อ้อยพันธุ์สิงคโปร์ ปัจจุบันใช้อ้อยเปลือกเขียว) น้ำตาลอ้อยที่เคี่ยวดั้งเดิม
- ข้าวตอก อบด้วยควันเทียน