ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 6° 30' 38.4966"
6.5106935
ลองจิจูด (แวง) : E 100° 57' 53.059"
100.9647386
เลขที่ : 195224
ขนมดอกจอก
เสนอโดย สงขลา วันที่ 5 มกราคม 2565
อนุมัติโดย สงขลา วันที่ 5 มกราคม 2565
จังหวัด : สงขลา
0 1224
รายละเอียด

ขนมดอกจอก เป็นขนมโบราณ เป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยก่อน แต่ในปัจจุบันเริ่มจะหาทานยาก เด็ก ๆ สมัยนี้อาจจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไรนัก เนื่องจากไม่ค่อยเป็นที่นิยมจากเด็กรุ่นใหม่ ขนมดอกจอกเป็นขนมที่มีรูปทรงคล้ายดอกจอกที่มีเเหล่งกำเนิดอยู่ในน้ำ รูปทรงสวยงามน่ารับประทาน เเต่เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องใช้น้ำมันพืชปริมาณมากในการทอดจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมกับคนสมัยนี้ที่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ เพราะอาจทำให้มีคอลเรตเตอรอลสูงเเละทำให้อ้วนได้

ขนมดอกจอก ในสมัยก่อนเป็นที่นิยมมากจะเป็นหนึ่งในขนมที่จัดขึ้นในงานเเละพิธีการสำคัญต่างๆ เช่น งานบวช งานเเต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น ไม่เเพ้ขนมไทยอย่างทองหยิบ ทองหยอด หรือฝอยทองที่เป็นที่นิยมทั่งในอดีตและปัจจุบัน

ประเทศไทยครั้งยังเป็นสยามประเทศได้ติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยส่งเสริมการขายสินค้าซึ่งกันและกัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหารการกินร่วมไปด้วย ต่อมาในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ได้มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวางไทยได้รับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่างๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น วัตถุดิบที่หาได้ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการบริโภคนิสัยแบบไทย จนทำให้คนรุ่นหลัง แยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ และอะไรดัดแปลงมาจากวัฒนธรรมของชาติอื่น เช่น ขนมที่ใช้ไข่และขนมที่ต้องเข้าเตาอบ ซึ่งเข้ามาในราชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากคุณท้าวทองกีบม้าภรรยาเชื้อชาติญี่ปุ่น สัญชาติโปรตุเกสของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ผู้เป็นกงสุลประจำประเทศไทยในสมัยนั้น ไทยมิใช่เพียงรับทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองมาเท่านั้น หากยังให้ความสำคัญกับขนมเหล่านี้โดยใช้เป็นขนมมงคลอีกด้วย ส่วนใหญ่ตำรับขนมที่ใส่มักเป็น “ของเทศ” เช่น ทองหยิบ ฝอยทองทองหยอดจากโปรตุเกสมัสกอดจากสกอตต์

ส่วนผสม

1.แป้งข้าวเจ้า ๓๕๐ กรัม

2.แป้งมัน ๕๐ กรัม

3.น้ำตาลทราย ๑ ถ้วย

4.น้ำปูนใส ๑ ถ้วย

5.หัวกะทิ ๑ ถ้วย

๖.ไข่ไก่ ๑ ฟอง

๗.งาขาว/งาดำ

๘.ตอแม่พิมพ์ขนมดอกจอก

วิธีทำข้าวต้มมัด

1.ผสมแป้งโดยใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทราย น้ำปูนใสและหัวกะทิ ผสมให้เข้ากัน แล้วใส่ไข่ลงไป ตีให้เข้ากันอีกครั้ง

2.ผสมงาขาวหรืองาดำ ลงไปคนให้ทั่ว

3.ตั้งกระทะเทน้ำมันให้ท่วม รอให้ร้อน นำแม่พิมพ์สำหรับทำขนมดอกจอกลงไปแช่ในน้ำมัน ให้แม่พิมพ์มีความร้อน

4.นำแม่พิมพ์ลงไปจุ่มกับน้ำแป้งแล้วนำไปทอด ทอดจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน

5.นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันจัดเรียงใส่จานหรือกล่องให้สวยงาม

คำสำคัญ
ขนมดอกจอก
สถานที่ตั้ง
หมู่ที่/หมู่บ้าน บ้านตราย
ตำบล จะแหน อำเภอ สะบ้าย้อย จังหวัด สงขลา
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
นางอาซีซ๊ะห์ บูวะ
บุคคลอ้างอิง อินทิรา แก้วขาว อีเมล์ intira_ka@hotmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา
เลขที่ 10/1 ถนน ถ.สุขุม
ตำบล บ่อยาง อำเภอ เมืองสงขลา จังหวัด สงขลา รหัสไปรษณีย์ 90000
โทรศัพท์ 074327147 โทรสาร 074326823
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่