ตำนานท้องถิ่นเล่ากันมาว่าพระม่วงทองว่าเป็นมหาดเล็กคนสำคัญในราชสำนักของพระยาสายฟ้าฟาดหรือห้าวโกสินทร์ผู้ครองเมืองพัทลุงที่บางแก้ว ต่อมาลักลอบได้เสียกับแม่ศรีมาลา หรือแม่นวลทองสำลีจนนางตั้งครรภ์ จึงถูกพระบิดาลงโทษโดยการเนรเทศลอยแพไปอยู่เกาะกะชัง เชื่อกันว่าพระม่วงทองคือเทพ (เทพสิงหร) ที่แบ่งภาคจุติลงมาในเมืองมนุษย์ เพื่อให้กำเนิดศิลปะการรำโนราหรือครูต้นของโนรา ต่อมาได้เป็นหัวหน้ามหาดเล็กหรือหัวหน้าคณะนายทหารองครักษ์พระเทพสิงหร และขุนศรีศรัทธา พระม่วงทองนั้นเชื่อกันว่าสามารถบ่งภาคได้ถึง ๓๒ ภาค มากกว่าครูหมอโนราองค์อื่น ๆ ที่แบ่งภาคได้เพียง ๑๒ ภาค
ตามตำนานกล่าวว่าพระม่วงทองมีกรรยา ๑๒ คน คือแม่ศรีมาลาหรือแม่นวลทองสำลี แม่แขนอ่อนฝายขวาแม่แขนอ่อนฝ่ายชาย แม่เภา แม่เมาคลื่น แม่คิ้วเหิน แม่หนุ้ย แม่ใจไว แม่เสียงเกลี้ยง เเม่เสี่ยงหวานและอีก ๒ คน เป็นอิสลามคือ แม่จันจุหรี และแม่ศรีจุหรา จากการสังเกตโนราโรงครูใหญ่วัดท่าแค พบว่าคนทรงครูหมอโนราทุกคนจะให้ความเคารพพระม่วงทองในร่างทรง โดยเฉพาะคนทรงครูหมอโนราที่เป็นกรรยาของพระม่วงทอง เมื่อครูหมอโนราแล้วจะเข้าทรง จะเข้าไปกราบไหว้พระม่วงทอง ส่วนการบนขอความช่วยเหลือคณะโนราลูกหลานตายายโนรา ชาวบ้านโดยทั่วไป สามารถบนได้เช่นเดียวกับพระเทพสิงหร และขุนศรีศรัทธา สำหรับของเช่นไหว้ หรือเครื่องแก้บนนั้นนิยมพวกของหอม ดอกไม้ ที่สำคัญ คือ ดอกไม้ไฟ ซึ่งหมายถึง การนำเทียน ๑๒ เล่ม มาจุดไฟแล้วนำไปถวาย หากมีคนทรงพระม่วงทองและกำลังประทับทรงอยู่ร่างทรงก็จะรับเทียนนั้น จ่อเข้าปาก ๓ ครั้ง แต่โดยทั่วไปแล้วชาวบ้านนิยมแก้บนด้วยการจุดประทัด ส่วนลูกหลานตายายโนราที่ เคารพนับถือพระม่วงทองอาจจะจัดให้มีโนราโรงครูถวายในแต่ละปีหรือตามที่ตกลงสัญญาไว้กับครูหมอโนรา หรือเพียงแต่เซ่นไหว้ด้วยเครื่องสังเวยต่าง ๑ ยกเว้นของคาวและเหล้าหน้าทิ้งบูชาภายในบ้านตามกำลังของแต่ละคน เป็นต้น