นางสาวอามีเน๊าะ สะนิ เล่าให้ฟังว่าได้รับการสืบทอดการทำขนมเจาะหู (ตือปงดือแร)มาจากคุณแม่ซึ่งมีอาชีพขายขนมในสมัยก่อน ตนเองได้เรียนรู้และฝึกทำขนมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันยึดเป็นอาชีพหลักสามารถ มีรายได้จุนเจือครอบครัว ในสมัยนี้ไม่ค่อยนิยมทำกัน เพราะยุคปัจจุบันมีขนมมากมายหลายชนิดให้เลือกรับประทาน เป็นขนมที่ทำกันในเทศกาลต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน เทศกาลเข้าสุนัขหมู่ งานเมาลิด งานอาซุรอ หรืออาจจะทำขายเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว เป็นขนมที่สามารถรับประทานได้ ทุกฤดูกาล ซึ่งนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง ส่วนใหญ่คนเฒ่าคนแก่จะชอบรับประทานร่วมกันน้ำชาขนมเจาะหู เป็นขนมโบราณชนิดหนึ่ง เป็นขนมที่มีรสชาติหอม หวาน อร่อย น่ารับประทาน ตนได้ไปจำหน่ายตามตลาดนัดทุกวัน
วัสดุ/ส่วนผสม
๑. แป้งข้าวเจ้า ๑ กิโลกรัม
๒. แป้งเข้าเหนียว ๒ กิโลกรัม
๓. น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ ๑ กิโลกรัม
๔. เกลือ ๑ ช้อนโต๊ะ
๕. น้ำ
๖. น้ำมันพืช
วิธีทำ
๑ เตรียมแป้ง - นำแป้งข้าวจ้าวและแป้งข้าวเหนียวมาร่อน คลุกเคล้าให้เข้ากัน - นำเกลือมาละลายกับน้ำ - นำน้ำเกลือ น้ำตาลปี๊บมาละลายกับแป้งที่เตรียมไว้มาคลุกเคล้าให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
๒.น้ำมันใส่กระทะ
๓.นำเป็นแป้งที่ผสมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วมาปั้นเป็นก้อนเล็กพอประมาณ ตั้งบนไฟให้ร้อนวางบนใบตอง แล้วนำมาแผ่บาง ๆ ให้มีลักษณะกลมแบน เจาะรูตรงกลาง
๔. นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนสุกฟูเป็นสีน้ำตาล คล้ายขนมโดนัทของฝรั่ง จะได้เป็นขนมเจาะหูที่ต้องการและจะมีรสชาติกรอบนอกนุ่มใน