ความเป็นมา
หลังจากตรากตรำกับงานในไร่บนดอยสูงเป็นเวลาเกือบปีเพื่อทำการเพาะปลูกข้าวในไร่ และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หมดแล้วและมีข้าวเก็บไว้รับประทานได้ตลอดปี ก็ถึงเวลาของการพักผ่อน และจัดงานรื่นเริงประจำปี ซึงชาวลาหู่เรียกว่า เทศกาลกินวอ หรือปีใหม่กินวอของชาวลาหู่ ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีในช่วงเดี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน เพื่อเป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์ และ เป็นการบูชาเทวราชหงือซา ที่ช่วยดลบันดาลให้พวกเขาได้มีผลผลิตจากไร่ไว้สำหรับบริโภคได้ตลอดปี และช่วยปกปักรักษาให้พวกเขาอยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป-ร่วมสนทนาเกี่ยวกับวิถีชีวิตชนเผ่ากับผู้นำชุมชน และผู้อาวุโสในหมู่บ้าน-ร่วมเล่นสันทนาการกับเด็กๆในหมู่บ้านชาวดอยและมอบของที่ระลึกให้เด็กๆ-ร่วมกิจกรรม"การลงข่วงลานวัฒนธรรม"ของชาวบ้านอาผ่าชาวอาข่า-ร่วมฉลองปีใหม่กินวอ และชมการเต้นจะคึเวของกลุ่มอนุรักษ์วัฒนธรรมเยาวชนท่องเที่ยวบ้านยะฟู-ชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้ากลางไร่ข้าวในบรรยากาศธรรมชาติ-และเล่นน้ำตกห้วยแม่ซ้ายที่ไหลเย็นตลอดปีเทศกาลปีใหม่กินวอของชาวลาหู่เด็กๆ ต่างรอคอยวันนี้เพื่อจะได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่พ่อแม่ซื้อหามาจากในเมือง เพื่อเข้าร่วมในการระเล่นของชาวชนเผ่าแบบดั่งเดิมที่สนุกสนาน และในช่วงกลางคืน หนุ่มสาวชาวบ้านจะสวมใส่ชุดประจำเผ่าที่งดงาม จะรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่นำโดยผู้เป่าแคนบรรเลงเพลงอวยพรปีใหม่ตรงต้นวอกลางลานหมู่บ้าน และเต้นรำด้วยเพลงชื่อ"เขาะจ๊าเวกะดึป่าเตดะเว"(เขาะจ๊าเว = กินปีใหม่, กะคึป่าเตดะเว = เต้นรำรื่นเริงกันเถิด) การรื่นเริง กะคึเว (เต้นรำปีใหม่), จะคึเว (เต้นรำในพิธีกรรมต่าง ๆ รวมทั้งปีใหม่ของชาวลาหู่) มูเซอแดงมีปีใหม่หญิง 4 วัน ปีใหม่ชาย 3 วัน ทั้ง 7 วัน วันนี้จะหยุดงาน ห้ามออกนอกหมู่บ้าน ยกเว้นเดินทางไปประกอบพิธีกรรมวันปีใหม่ที่หมู่บ้านอื่น
ปีใหม่ของชาวเขาเผ่านี้ ในปีหนึ่ง ๆ จะมีการจัดขึ้น เพียงหนึ่งครั้ง คือระหว่าง เดือน กุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม ของทุกปี จะมีการเรียนเชิญแขกมาร่วมรับประทานอาหาร ในการจัดประเพณี ในแต่ละคราวนั้น
ขั้นตอนพิธีการ/องค์ความรู้ความหมาย
จะจัดประมาณ 9 วัน 9 คืน มีการทำข้าวปุก ( ภาษาท้องถิ่น ) ซึ่งเป็นข้าวที่นึ่งแล้วนำมาตำให้ละเอียดแล้วนำมาตากให้แห้ง และทุกครอบครัวจะมีการล้มหมู ( หรือฆ่าหมู ) โดยจะมีการนำหมูมาหั่นเป็นชิ้น ๆเพื่อเอาไว้ไปดำหัว ผู้ที่เคารพนับถือ ทุกวันจะมีการดื่มสังสรรค์กัน และตกกลางคืนจะเป็นการละเล่นพื้นเมืองคือการเต้นรำ โดยจะมีหญิงสาวใส่เสื่อผ้าอันสวยงาม ออกมาเต้นรำ และมีการใช้เครื่องคนตรีในการเป่า ลักษณะคล้ายแคน ของคนอีสาน โดยคนเป่าจะทำการเป่าไปรอบ ๆ กองไฟ และมีกลุ่มหนุ่มสาว ออกมาเต้นรำเป็นคู่ ๆ และเวลาคนต่างถิ่นหรือนักท่องเที่ยวเข้าไป ก็จะได้รับการเชื้อเชิญให้มีการเต้นรำกับชนเผ่านี้ เป็นการละเล่นที่สนุกสนาน เน้นความสมัครสมานสามัคคี ของคนในชุมชนโดยจะมีการเต้นและการละเล่นทุกคืนที่มีประเพณีนี้ และในวันก่อนจะถึงวันสุดท้าย ชาวบ้านจะออกมาจากหมู่บ้านเพื่อเดินทางไปดำหัว ผู้ใหญ่ในตำบลหรือว่าที่ชาวบ้านเคารพนับถือ คือ นายอำเภอปางมะผ้าคณะครูอาจารย์ ผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานราชการในพื้นที่ โดยจะมีการนำเนื้อหมู และข้าวปุก ไปเป็นของที่จะใช้ดำหัว และมีการนำน้ำ คล้ายๆ น้ำส้มป่อย มารดมือ โดยก่อนจะดำหัวมีการเต้น เรียกว่าเต้นจะคึให้ดู 1 รอบ จากนั้นดำหัวเสร็จ ก็จะรับพรจากผู้ใหญ่ แต่จะเป็นพิธีที่แปลกคือดำหัวเสร็จแล้ว ผู้ใหญ่ต้องมีสินน้ำใจเล็ก ๆ มอบให้ทุกครั้ง เป็นประเพณีของชาวเขาเผ่านี้ ประเพณีกินวอ จะทำการเวียนกันไปทุกหมู่บ้านที่เป็นชนเผ่าลาหู่ เผ่าลาหู่หรือมูเซอจะอาศัยอยู่ในอำเภอปางมะผ้ามากที่สุด และตำบลนาปู่ป้อมก็เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอนี้
สถานที่จัด
ทุกหมู่บ้าน ชาวลาหู่ ในอำเภอปางมะผ้า