วังเก่าบ้านกาแป๊ะกอตอ
ตามหลักฐานและตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้การแยกมณฑล ปัตตานีออกเป็น 7 หัวเมือง อันได้แก่ ปัตตานี หนองจิก สายบุรี ยะหริ่ง ยะลา รามันห์ และระแงะ เป็นต้นมา เมืองเบตงนั้นขึ้นกับเมืองรามันห์ โดยในครั้งหนึ่ง เจ้าเมืองเบตง ที่เรียกตามภาษท้องถิ่นว่า “รายา” นามว่า “ซียง” (รายาเขี้ยวงอก) ซึ่งเป็นต้นตระกูล “ซียง” ตามตำนานเล่าขานกันว่า รายาเขี้ยวงอก เป็นรายาอธรรม ชอบข่มเหงรังแกชาวบ้านบ้างก็ว่าชอบเสวยเลือดมนุษย์ ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันขับไล่ไปอยู่ทางตอนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของสหพันธรัฐมาเลเซียในปัจจุบัน และเสียชีวิตที่นั่น บ้างก็ว่า เจ้าเมืองรามันห์เข้ามาปราบจึงหนีไปทางใต้ หรือมาเลเซีย ในปัจจุบัน เสียดายที่ยังไม่มีการศึกษาวิจัยประวัติศาสตร์อย่างเป็นจริงเป็นจัง จึงไม่ค่อยมีข้อมูลในฝั่งไทยมากนัก แต่ทราบว่า มีหมู่บ้านหนึ่งที่รายาซียงไปตั้งขึ้น พำนักที่นั่นจนบั้นปลายชีวิต มีหลักฐานเป็นกุโบร์อยู่ที่ฝั่งโน้น ส่วนหลักฐานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ของวังเก่าบ้านกาแป๊ะกอตอนั้น คือกำแพงวัง เป็นกำแพงดินฐานกว้างประมาณ ๓ เมตร สูง ๒ เมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ ๒๐ ไร่ เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ปัจจุบันยังคงเห็นร่องรอยรอบๆหมู่บ้าน และตามสวนยางพารา สวนผลไม้ที่ทำกินของชาวบ้าน และร่องรอยสถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัยแบบมลายูของตะกูลรือซะ มีโบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนโบราณ มีดดาบ และกริซ จำนวนมากที่พบจากการขุดบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งเทศบาลเมืองเบตงได้ขอบริจาคเพื่อมารวบรวมมาแสดงในพิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านกาแป๊ะกอตอ และศูนย์วัฒนธรรมชุมชนบ้านกาแป๊ะกอตอที่ตั้งบริเวณเดียวกัน