ชื่อบ้านนามเมือง บ้านโพนม่วง ตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
บ้านโพนม่วงเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๐ ได้มีหลวงตาภส ที่เป็นพระอยู่วัดบ้านแคด่อน อำเภอท่าตูม ได้เดินธุดงค์เข้ามาในทุ่งกุลา และพบโนนใหญ่ที่มีหนองน้ำล้อมรอบ เหมาะที่จะมาตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัย จึงได้กลับไปชักชวนพี่น้อง ลูกหลาน และญาติโยมเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัย
บ้านโพนม่วง สภาพเดิมก่อนคนเข้ามาอยู่อาศัย มีลักษณะเป็นโนนหรือโคกใหญ่ ซึ่งเป็นโนนดินสูงน้ำท่วมไม่ถึงในฤดูน้ำหลาก มีป่าน้อยใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด เป็นป่าดงดิบ และยังมีป่าไม้เบญจพรรณขึ้นเต็มไปหมด มีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิด ซ้ำยังติดกับแม่น้ำลำพลับพลา และหนองรอบๆบ้าน ส่วนหนองรอบบ้านนั้นเมื่อพิจารณาดูแล้วเป็นสภาพเหมือนเป็นเมืองเก่าที่มีการขุดดินทำเป็นคูน้ำ ล้อมรอบที่ตั้งบ้านเมือง เพื่อป้องกันสัตว์ป่า และศัตรูจากเมืองอื่น ที่จะมารุกราน จึงสันนิษฐานว่า ที่แห่งนี้ เคยเป็นเมืองเก่าที่รุ่งเรืองมาก่อน โนนม่วง ตั้งอยู่กลางทุ่งกุลาร้องไห้รอบโนนออกไปทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่มองสุดลูกหูลูกตา เป็นที่ราบลุ่ม เหมาะสมในการทำนา เมื่ออยู่แล้วได้ทำไร่ ทำนา ก็ได้ผลดีจึงมีชาวบ้านแคด่อน อยู่อำเภอท่าตูม อพยพตามมาอยู่จึงทำให้หมู่บ้านขยายขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาจะมีกลุ่มคนที่อพยพมาจากที่อื่นเข้ามอยู่อีก ได้ แก่ กลุ่มที่มาจากบ้านโชค บ้านขวาว อำเภอเมืองสุรินทร์ (อำเภอขวาวสินรินทร์) ตระกูลใสสะอาดปัจจุบันมาจากบ้านตูม ในกลุ่มตระกูลกรวยทอง
กลุ่มที่ ๒ ที่ได้อพยพเข้ามาร่วม ได้แก่ นายเวียง นางจันทร์ สุขสนิท นายดี นางเมี่ยง กลอยทอง นายอัน นายน้อย อันมัย มาจากบ้านตูม อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ นายภู นางนับ หุนทอง และพวกมาจากบ้านพงสวาย โดยมีผู้ใหญ่บ้านคนแรก คือ นายเปี่ยม ปรีดา (สกุลเดิมบิดา ต่อมาเพี้ยนเป็น ปรีดา)
ซึ่งแต่เดิม เรียกว่า บ้านโนนม่วง และเพี้ยนเปฌน โพนม่วงในปัจจุบัน